เศรษฐกิจของโลกทั้งโลกมาจากการค้า ประเทศแต่ละประเทศต้องการเงินเข้าประเทศเยอะๆ ก็ต้องพึ่งการค้าขายจากหลายๆ บริษัททั้งเล็ก ใหญ่ หรือ SMEs ...ดังนั้นคนหลายคนจึงใฝ่ฝันจะมีธุรกิจของตนเอง คนบางคนต้องการจะสืบทอดธุรกิจที่บ้าน แต่หัวใจหลักของการค้าคงหนีไม่พ้นการเข้าใจหลักการที่แสนจะพูดง่ายแต่ทำยากอย่างหลัก 4 P เพระฉะนั้น เรามาคุยเรื่องไอ้หลัก 4 P นี่ดีกว่า
หลายๆ คนคงได้ยินไอ้คำว่า 4 P's marketing มาในหลายๆ โอกาส ทั้งจากในหนังสือ จากนักวิชาการพูดกัน จากในห้องเรียน หรือจากอินเตอร์เน็ท แต่หลังจากได้ยินได้ฟัง ผมคิดว่า ความเข้าใจของหลัก 4 P's ของแต่ละคน ก็คงไม่เหมือนกัน ผมจึงอยากเอาความเข้าใจของผม มาแชร์ ให้เพื่อนๆ ได้ลองอ่านและมาแนะนำแลกเปลี่ยนกัน คงจะดีกว่าผมเข้าใจแล้วคิด ทึกทักเอาเองเนาะ ^^
แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้จัก ไอ้ที่พูดๆ มา 4 P มันมีอะไรบ้าง ในทุกๆ ตำรา ก็คงหนีไม่พ้น 4 ตัวนี้นะ 1.Product สินค้าหรือบริการที่จะขาย 2.Price ราคาของสินค้า 3.Place สถานที่ที่เราจัดจำหน่าย 4.Promotion โปรโมชั่นในการเรียกลูกค้า ... หลายๆ คนคงอาจถามว่า แล้วไอ้ที่นักวิชาการบางคน หรือหนังสือบางเล่มเขียน 6P 8P มันอันเดียวกันหรือป่าว ... ผมสรุปตามความเข้าใจนะ ผมว่ามันก็มีรากเหง้าต่อยอดมาจาก 4P นี่แหละ ก็คงเหมือนกับ ปัจจัย 4 คนเรา อาหาร ที่อยู่ เครื่อนุ่งห่ม ยารักษาโรค แล้วก็ต่อยอดตามยุคสมัย ปัจจุบันอาจะเป็น อินเตอร์เน็ท สมาร์ทโฟน อะไรก็ว่ากันไป
งั้นในเมื่อเรารู้จักได้เจ้า 4P นี่แล้ว เรามาเข้าใจใน P แต่ละตัวกันดีกว่าเนอะ
Product คำว่าโปรดัก ในที่นี้คงไม่ได้หมายถึงสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่มันหมายถึงการบริการ หรือการทำการค้าทุกอย่างที่สามารถเปลี่ยนให้มันกลายเป็นเงินๆ ทองๆ หลายๆ คนคงคิดว่า งั้นก็ง่ายๆสิ แค่เราคิดว่าเราจะขายอะไร มันก็คือ โปรดักไง .... คิดงี้ก็รวยกันทั้งบ้านทั้งเมืองแล้วพี่น้อง
ฉะนั้น หลักการสร้าง สินค้าคงต้องแตกต่างจากคู่แข่ง มีทั้งรูปลักษณ์การออกแบบที่ดี และสามารถใช้งานได้ ไม่ใช่สวยแต่รูปจูบไม่หอม สินค้าและบริการของหลายๆ คนอาจจะใส่ความแปลกใหม่ในแง่ขอเทคโนโลยี อย่างที่หลายๆ คนอาจเรียกว่า มี innovation แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของโปรดัก ก็คือ ทำออกมาแล้วตอบสนองความต้องการของลูกค้า "ทำออกมาดีแค่ไหน ลูกค้าไม่สนใจก็จบเห่ล่ะค้าบ"
Price ความหมายสั้นๆ "ราคาพอดีๆ ลูกค้าชอบ ราคาถูกไปแพงไป ลูกค้าไม่ซื้อ" ก็คือ การตั้งราคานี่เองแหละคับ หลายๆ คนอาจจะเคยเห็นสมการการตั้งราคา >>> ราคาขาย = ต้นทุน + กำไรที่อยากได้ <<< ทุกวันนี้ลองทำดูสิคับ แล้วจะรู้ว่าผิดมหันต์ ... งั้นถ้าเราอยากได้กำไร เยอะๆ ทำไงล่ะ ? มีสมการคิดง่ายๆ ครับ >>>กำไร = ราคาจริงจากตลาด - ต้นทุน<<< เนื่องจาปัจจุบัน ราคาสินค้าส่วนใหญ่ถูกกำหนดตามราคาตลาด ใครอยากได้กำไรเยอะๆ ก็ต้องทำสินค้าให้มีมูลค่าสูงๆ ลูกค้าซื้อแล้วรู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป และผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูง ในต้นทุนที่ต่ำ ตัวอย่างสินค้าในดวงใจคงหนีไม่พ้น ไอโฟน ไอแพท ของพี่สตี๊ฟ จ๊อบ ที่สร้างสมาร์ทโฟน ที่ถือแล้วดูเท่ ใช้งานได้ครบครัน ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เสียไป แม้จะสั่งวัตถุดิบส่วนใหญ่จากจีนและเกาหลีก็ตาม ^^
Place ในที่นี้คงหมายถึง ช่องทางการจัดจำหน่าย บางคนอาจจะบอกว่าคือการเช่าที่ไว้สำหรับเปิดหน้าร้าน หรือการเอาสินค้าไปฝากขายในร้านค้าต่างๆ ทั้ง 7-11 แมคโค โลตัส ฯลฯ แต่ในปัจจุบัน ช่องทางการจัดจำหน่างที่ใหญ่ที่สุดคงหนีไม่พ้นโลกอินเตอร์เน็ท การเปิดหน้าร้านออนไลน์ หรือการซื้อขายของออนไลน์
หลักการเลือกทำเลการขายง่ายๆ จากคำพูดที่ว่า "ของดีๆ วางขายผิดที่ ขายไม่ออก ของไม่ดีวางขายถูกที่ กลับขายออก"ทั้งในโลกแห่งความเป็นจริง ทั้งในโลกอินเตอร์เน็ท นั่นก็คือ เราต้องรู้ว่า เราจะขายอะไร ลูกค้าของเราเป็นใคร ลูกค้าของเราอยู่ไหน พูดง่ายๆ แต่ทำยากพอสมควรนะครับ แต่ถ้าเพื่อนๆ ลองสังเกตกันดู ในเมืองไทย มีน้ำอัดลมยี่ห้อหนึ่ง สามารถเข้ามาแชร์ส่วนแบ่งการตลาด จาก โค้ก เปปซี่ ทั้งๆ ที่เป็นแบรนด์คนไทย น่าสนใจไหมล่ะคับ ว่าทำได้อย่างไร เค้าวางขายที่ไหนเป็นส่วนใหญ่ แล้วใครเป็นลูกค้าของเขา
Promotion สำหรับ P ตัวสุดท้าย ผมคิดว่า P ตัวนี้ เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการดึงดูดลูกค้า เป็นตัวที่จะช่วยให้เกิดการเพิ่มลดของยอดขาย ในปัจจุบัน โปรโมชั่น คงไม่ใช่แค่การลดราคาสินค้าเพื่อให้ลูกค้ามาซื้อเยอะๆ หรือการจัดแคมเปญ แจกบ้าน แจกเงินล้าน แจกรถ เพราะการทำเช่นนี้ เป็นการกระตุ้นให้เกิดการซื้อสินค้าจำนวนมาก ... แต่ผมว่ามันเป็นการจัดแคมเปญที่ฉาบฉวย ยอดขายจะเพิ่มขึ้นแค่ตอนจัดแคมเปญ แต่หลังจากนั้น สินค้าหลายๆ ตัวกลับพบว่า ยอดขายลดลงฮวบฮาบ บางราย อาจลดลงมากกว่าตอนไม่จัดโปรโมชั่นนี้ด้วยซ้ำ มิหนำซ้ำ ยังมีเสียงบ่นจากลูกค้า ที่คาดหวังว่าตนจะได้รางวัล หรือบางคนได้รางวัล กลับต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายเป็นเงินที่มากโข บ้างได้ไปเที่ยวต่างประเทศ แต่ต้องควักกระเป๋าเองอีกเป็นเงินก้อนโต
ตัวอย่างการจัดโปรโมชั่นดีๆ ในประเทศไทย หลายๆ คนคงคิดถึงเคสของคุณตัน ณ ตอนที่ยังเป็นผู้บริหารชาเขียว โออิชิ ที่เคยจัดโปรโมชั่นรวยฟ้าผ่า เปิดฝาได้ล้าน แล้วพบว่าหลังการจัดกิจกรรม ยอดขายลดลงฮวบฮาบ จึงได้แก้เกมส์ด้วยการจัดแคมเปญต่อมา "ไปแต่ตัว ทัวร์ยกแก๊ง" นับได้ว่าเป็นการจัดโปรโมชั่นที่ได้ใจผู้บริโภคไปเต็มๆ คิดดูสิครับ ณ ตอนนั้น การได้ไปญี่ปุ่น นับเป็นความฝันของคนไทยหลายๆ คน ไปทั้งที ได้ไปฟรี ฟรีทั้งค่าตั๋ว ฟรีทั้งที่พัก ค่ากิน แถมยังมีเงินติดกระเป๋าให้ช็อปปิ้งฟรีๆ จำได้ว่าตัวผมเองยังมีฝาโออิชิที่ยังไม่ได้ส่งอีกหลายสิบฝา ... อิอิ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น